ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยคนไทยป่วยทางจิตเวช1.6 ล้านกว่าคน (ย้ำ!รักษาหายได้ หากหาหมอเร็ว) ชี้การรดน้ำมนต์ เข้าทรง ไม่หายแน่จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยดังกล่าว

อังคาร ที่ 27 มิถุนายน 2560 จำนวนอ่าน 2675 ครั้ง

รูปภาพประกอบ

ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยคนไทยป่วยทางจิตเวช1.6 ล้านกว่าคน (ย้ำ!รักษาหายได้ หากหาหมอเร็ว) ชี้การรดน้ำมนต์ เข้าทรง ไม่หายแน่จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยดังกล่าว
 
ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยคนไทยป่วยทางจิตเวช1.6 ล้านกว่าคน (ย้ำ!รักษาหายได้ หากหาหมอเร็ว) ชี้การรดน้ำมนต์ เข้าทรง ไม่หายแน่จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยดังกล่าว
 
ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยคนไทยป่วยทางจิตเวช1.6 ล้านกว่าคน (ย้ำ!รักษาหายได้ หากหาหมอเร็ว) ชี้การรดน้ำมนต์ เข้าทรง ไม่หายแน่จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยดังกล่าว
 
ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยคนไทยป่วยทางจิตเวช1.6 ล้านกว่าคน (ย้ำ!รักษาหายได้ หากหาหมอเร็ว) ชี้การรดน้ำมนต์ เข้าทรง ไม่หายแน่จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยดังกล่าว
 

ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยคนไทยป่วยทางจิตเวช1.6 ล้านกว่าคน (ย้ำ!รักษาหายได้ หากหาหมอเร็ว) ชี้การรดน้ำมนต์ เข้าทรง ไม่หายแน่จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยดังกล่าว

ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยคนไทยป่วยทางจิตเวช1.6 ล้านกว่าคน (ย้ำ!รักษาหายได้ หากหาหมอเร็ว) ชี้การรดน้ำมนต์ เข้าทรง ไม่หายแน่จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยดังกล่าว

    

   ที่กรมสุขภาพจิต นนทบุรี: ผู้สื่อข่าวรายงานเข้ามาว่าเมือวันที่ 23 มิ.ย. 2560 ท่าน อธิบดีกรมสุขภาพจิต  เผยผลสำรวจระบาดวิทยาระดับชาติครั้งล่าสุดพบคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคทางจิตเวชร้อยละ 3.2 หรือประมาณ 1.6 ล้านกว่าคน เร่งแก้ความเข้าใจผิดประชาชนว่าไม่ใช่เกิดจากภูตผีปีศาจ หรือเรื่องทางไสยศาสตร์ การรดน้ำมนต์ การเข้าทรงไม่ได้ช่วยให้หายแน่นอน ระบุโรคนี้เกิดจากความผิดปกติในระบบสมอง ทำให้มีความคิด อารมณ์ พฤติกรรมแตกต่างจากคนปกติทั่วไป แต่สามารถรักษาหายขาดหรืออาการสงบได้ และได้ผลดีที่สุดหากได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการครั้งแรก และจะต้องกินยาให้ครบ สม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง ไม่ควรหยุดยาเองเนื่องจากจะส่งผลให้อาการกำเริบรุนแรงและเรื้อรัง ทำให้เกิดการสูญเสียความสามารถในการใช้ชีวิต

      ท่าน นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมสุขภาพจิตได้เร่งพัฒนาระบบบริการผู้ป่วยโรคทางจิตเวช ได้แก่ โรคซึมเศร้าและโรคจิตเภท ให้สามารถเข้าถึงบริการดูแลรักษาเพิ่มขึ้น ซึ่งจากเดิมการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในปี 2551 มีเพียงร้อยละ 3.34 เพิ่มเป็นร้อยละ 48.50 ในปี 2559 ส่วนผู้ป่วยโรคจิตเภทในปี 2557 เข้าถึงบริการร้อยละ 43.75 เพิ่มเป็นร้อยละ 68 ในปัจจุบัน ทำให้ผู้ป่วยจิตเวชได้รับการรักษาเพิ่มมากขึ้นและสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับชุมชนได้

     ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า ผลสำรวจระบาดวิทยาระดับชาติครั้งล่าสุดเมื่อพ.ศ. 2556 พบคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคทางจิตเวชร้อยละ 3.2 หรือประมาณ 1.6 ล้านกว่าคน สาเหตุการป่วยเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น กรรมพันธุ์ ความผิดปกติของระบบการทำงานของสมอง การอบรมเลี้ยงดู ภาวะความกดดันต่าง ๆ เป็นต้น ผู้ชายมักจะเริ่มป่วยเมื่ออายุ 18-30 ปี ส่วนผู้หญิงจะเริ่มป่วยเมื่ออายุ 20-40ปี ผู้ป่วยประเภทนี้จะมีลักษณะแตกต่างไปจากคนปกติทั่วไป ไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งด้านความคิด พฤติกรรม และอารมณ์ ได้แก่ หลงผิด คิดว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์ การรับรู้ผิดปกติ เช่น มีหูแว่วได้ยินเสียงคนมาพูดด้วยโดยไม่เห็นตัว ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี พูดคนเดียว แต่งตัวแปลกๆ สกปรกรุงรัง ดังนั้นหากประชาชนพบเห็นคนในครอบครัวหรือในชุมชนเริ่มมีอาการป่วยใหม่ๆ ควรรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็วที่สุด ยิ่งเร็วเท่าใดยิ่งได้ผลดี ผู้ป่วยจะมีโอกาสหายขาดสูง สามารถใช้ชีวิตหรือทำงานได้ตามปกติ โดยกรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้สำนักบริหารระบบบริการสุขภาพจิตและโรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ เร่งพัฒนาระบบบริการเพื่อเพิ่มการเข้าถึงของผู้ป่วยโรคทางจิตเวชให้ได้มากขึ้น

           อย่างไรก็ตามในการดูแลผู้ป่วยโรคทางจิตเวช มักจะพบปัญหาหลัก 2 ประการ ประการแรก คือ มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิดว่าอาการป่วยของผู้ป่วยโรคทางจิตเวชเกิดจากการกระทำของภูตผีปีศาจหรือเรื่องทางไสยศาสตร์ เป็นคนบ้า และเชื่อว่ารักษาไม่หาย จึงไม่พาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล แต่พาไปรดน้ำมนต์หรือทำพิธีเข้าทรงตามความเชื่อแทน ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมาก ถูกละทิ้ง ไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการครั้งแรก จึงทำให้อาการป่วยเรื้อรัง โอกาสหายขาดจึงน้อยลง ประการที่ 2 ในกลุ่มของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษากินยาแล้ว เมื่ออาการทางจิตใจดีขึ้นจนเป็นปกติ จะคิดว่าตนเองหายแล้วหรือกลัวว่าจะติดยา จึงมักจะหยุดกินยาหรือกินไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งจะมีผลเสียอย่างมากผู้ป่วยจะ มีโอกาสเกิดอาการกำเริบซ้ำ การรักษายากขึ้นและได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงและเรื้อรังรวมทั้งสูญเสียความสามารถ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจครอบครัวและประเทศ ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้เร่งสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนในเรื่องที่กล่าวมาแล้ว

ส่วนทางด้านท่าน นายแพทย์บุรินทร์ สุรอรุณสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารระบบบริการสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้ กรมสุขภาพจิตได้ร่วมมือกับเขตสุขภาพทั้ง 12 เขต กรุงเทพมหานคร และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ขยายการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิตตามมาตรฐานลงสู่โรงพยาบาลชุมชน 878 แห่งทั่วประเทศ กระจายยาที่จำเป็น 35 รายการ สามารถให้การรักษาผู้ป่วยโรคทางจิตเวชได้ เช่น โรคจิตเภท โรคซึมเศร้า โรคสมาธิสั้น เป็นต้น เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาในสถานบริการที่อยู่ใกล้บ้านยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจคัดกรองหาผู้ป่วยจากชุมชนเพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงบริการรักษา และพัฒนาให้โรงพยาบาลจิตเวชในสังกัด 19 แห่งทั่วประเทศ เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางรักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ยุ่งยาก ซับซ้อน ที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ทั่วประเทศแบบไร้รอยต่อดังกล่าวตามข่าว(คน จอหอรายงาน/ข้อมูลจาก../PR..กรมสุขภาพจิต)นสพ.นิวส์มหาชนออนไลน์ทั่วโลกนำเสนอข่าวเข้าไปดูข่าวในมือถือของท่านได้ที่..www.news-mahachon.com

 

นสพ.นิวส์มหาชนออนไลน์นำเสนอข่าวทั่วโลกเข้าไปดูมือถือของท่านได้ที่..www.news-mahachon.com

Tag : ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยคนไทยป่วยทางจิตเวช1.6 ล้านกว่าคน (ย้ำ!รักษาหายได้ หากหาหมอเร็ว) ชี้การรดน้ำมนต์ เข้าทรง ไม่หายแน่จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยดังกล่าว



ข่าวยอดนิยม @ข่าวสาธารณสุขนิวส์มหาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง @ข่าวสาธารณสุขนิวส์มหาชน